
* ควรให้ชามอาหารและน้ำของสุนัขอยู่ห่างจากทางเดินเท้า และไร้เสียงรบกวน
* สถานที่ที่วางชามอาหารและน้ำควรอยู่ในที่ที่สุนัขเข้ าถึงได้สะดวก
* การวางเสื่อ ผ้า หรือหนังสือพิมพ์ใต้ชามอาหารและน้ำ จะช่วยให้คุณทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
* ไม่ควรเปลี่ยนสถานที่วางชามอาหารหรือน้ำบ่อยจนเกินไป แต่ควรเปลี่ยนเมื่อจำเป็นเท่านั้น
* ควรทำให้บริเวณที่สุนัขทานอาหารสะอาด และมีน้ำสะอาดตั้งไว้อยู่เสมอ
* สำหรับลูกสุนัขที่มีอายุ 6 ถึง 8 สัปดาห์ ควรให้อาหาร 3 ครั้งต่อวัน
* โดยปกติแล้วสุนัขจะใช้เวลาทานอาหารไม่เกิน 20 นาที ควรเก็บชามอาหารทันทีที่สุนัขทานเสร็จ เพื่อเป็นการฝึกให้สุนัขรับประทานเป็นเวลา
* สำหรับ ลูกสุนัขที่เพิ่งหย่านมและเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก อาจใส่น้ำลงไปในอาหารเม็ดแบบแห้งในช่วงแรกเพื่อให้ทา นอาหารได้ง่ายขึ้น โดยเมื่อลูกสุนัขเริ่มโตขึ้น ค่อยๆลดปริมาณน้ำในอาหารลง หรือให้เป็นอาหารแบบเปียกแทน ถึงแม้ว่าจะให้อาหารแบบเปียก ก็ต้องเตรียมน้ำสะอาดให้พร้อมอยู่เสมอ
* เมื่อสุนัขอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ควรเปลี่ยนการให้อาหารเป็น 2 ครั้งต่อวัน
* ควร ตรวจสอบปริมาณอาหารแนะนำสำหรับสุนัขแต่ละช่วงวัยแ ละสายพันธุ์ที่ฉลากอาหาร เพื่อให้สุนัขได้รับปริมาณอาหารที่เหมาะสมและป้องกัน ไม่ให้มีน้ำหนักตัวมากเกิน หรือ สอบถามได้จากสัตวแพทย์
ข้อควรรู้
ลูกสุนัขที่ถูกพาเข้าบ้านใหม่ มักจะเกิดความเครียดซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นถ้ามีการเปลี่ยนอาหารเกิดขึ้น ควรค่อยๆผสมอาหารใหม่เข้าไปในอาหารเดิมทีละน้อย และค่อยๆลดปริมาณอาหารเดิมลงเรื่อยๆจนเป็นอาหารใหม่ท ั้งหมด ทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 – 10 วัน เพื่อป้องกันปัญหาระบบทางเดินอาหารวิธีนี้สามารถใช้ไ ด้กับเวลาที่เปลี่ยนจากอาหารแบบเปียกเป็นอาหารแบบแห้ ง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dogloverzone.com