วิธีการเลือกซื้อลูกสุนัข

การเลือกสุนัข การที่จะเลือกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ มาเลี้ยงในบ้านนั้นก็คงต้องใช้ความคิดของตัวคุณเอง ว่าจะเลือกสุนัขชนิดไหนที่เหมาะสมและ เข้ากับสถานที่ที่อยู่ของคุณ การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณมีมาก แค่ไหนและจุดมุ่งหมายเลี้ยงไว้เพื่ออะไร
1.ให้ศึกษานิสัย ใจคอ ตลอดจนความต้องการของคุณและตัวสุนัขเสียก่อน คุณต้องการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใดและวัตถุ
2.ให้ซื้อลูกสุนัขจากฟาร์มที่ใหญ่ ดี มีชื่อเสียง มีมาตราฐานเท่านั้น เพราะจะทำให้คุณไม่ถูกหลอกขายสุนัข จะต้องไม่เสียใจในภายหลัง
3.ให้เลือกลูกสุนัขที่เป็นสุนัขสายพันธ์แท้เท่านั้น โดยจะต้องมีคุณสมบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานสายพันธุ์ที่กำหนด สมส่วน โครงสร้างดูสมส่วนไม่อ้วนฉุหรือดูผอมจนเกินไป สุขภาพดี แข็งแรง ร่าเริงอยู่เสมอ ลูกสุนัขควรดูตื่นตัว กระฉับกระเฉง ดวงตาดูสดใส ที่จมูกดูชื้นและสะอาด ปราศจากน้ำมูก ขนสะอาด นุ่ม ผิวหน้าไม่เป็นขุยหรือเป็นแผ่นตกสะเก็ด ปราศจากเห็บหรือหมัด ภายในหูผิวหนังดูเป็นสีชมพูส่วนช่องในรูหูปราศจากไขดำๆหรือขี้หู อย่าเลือกลูกสุนัขที่จมูกดูแห้งและร้อนเพราะลูกสุนัขอาจจะไม่สบายและมีโรคร้ายแฝงอยู่ได้ บริเวณก้นดูสะอาดปราศจากเมือกหรือของเหลวเหนียวติดที่รูทวารสุนัข ลูกสุนัขดูร่าเริงขี้เล่นซุกซนดูสมวัยของมันและอย่า เลือกสุนัขที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวเพราะอาจมี ปํญหากับสมาชิกในครอบครัวหรือสุนัขตัวอื่นได้
4.ให้ดูที่พ่อพันธ์ แม่พันธ์เป็นหลัก
5.ให้ดูสายพันธุ์ประวัติของสุนัข (pedigree) หากพ่อ,แม่,ปู่,ย่า,ตา,ยาย,ทวด มีสายเลือดที่ดีมีผลการประกวดระดับแชมป์ หรือเป็นแชมป์ด้วยก็จะดีมาก
6.ลูกสุนัขควรมีอายุอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ หรือ 2 เดือนเป็นอย่างน้อยทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ของสุนัขและควรที่จะทำวัคซีนเรียบร้อยแล้วโดยคุณสามารถขอดูประวัติสุขภาพได้ จากเจ้าของต้องถามประวัติการฉีดวัคซีนด้วย (ขอสมุดพกการฉีดมาเก็บไว้เลย) ถ้าไม่ครบก็ต้องรีบปรึกษาสัตวแพทย์

Saturday, April 26, 2008

ผสมพันธ์สุนัข


การเจริญพันธุ์ ผสมพันธ์สุนัข
สำหรับผู้รักสุนัขแล้ว การได้ลูกหมาน้อยๆ มาชื่นชม นับเป็นความยินดีอย่างหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่า คุณจะมีเหตุผล อะไรก็ตามที ที่ไม่ต้องการสุนัขเพิ่มอีก คุณก็ควรมีความรู้ เกี่ยวกับการ
ผสมพันธ์สุนัข เพื่อจะได้ป้องกัน ไม่ให้เจ้าสุนัขของคุณท้องโย้ และคลอดลูก ออกมา จนเลี้ยงไม่ไหว
ระบบสืบพันธุ์แบบหมาๆ
โดยทั่วไปแล้ว สุนัขตัวเมียจะติดสัดปีละ 2 ครั้ง ยกเว้นสุนัขพันธุ์บาเซนจิ ที่ยังคงระบบ สืบพันธุ์แบบดั้งเดิม จึงติดสัดเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ช่วงที่สุนัขจะติดสัดคือ เดือน ม.ค. -มี.ค และ ส.ค.-ก.ย.
โดยธรรมชาติแล้ว สุนัขไม่ใช่สัตว์ประเภทผัวเดียว เมียเดียว จึงไม่น่าแปลกนัก หากจะพบสุนัขตัวเมีย 1 ตัว กับสุนัขตัวผู้อีก 1 โขยง แต่มีสุนัขบางพันธุ์เหมือนกันที่พึงพอใจ กับการใช้ชีวิตแบบผัวเดียว เมียเดียว เช่น หมาป่า สุนัขจิ้งจอก หมาป่าโคโอท เป็นต้น นอกจากนี้ สุนัขบ้านอย่างบีเกิล ก็มีแนวโน้มที่จะรักชีวิตคู่เช่นเดียวกัน
ระยะสัด
สุนัขจะเริ่มติดสัดเมื่ออายุราว 8 เดือน - 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับความสมบูรณ์ของสุนัข ระยะเวลาที่สุนัขติดสัดจะกินเวลาประมาณ 18-21 วัน ซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 2 ช่วง คือ
• ระยะเริ่มสัด กินเวลาประมาณ 4-14 วัน (โดยเฉลี่ยประมาณ 10 วัน) ระยะนี้ อวัยวะเพศตัวเมียจะเริ่มบวมขึ้นเรื่อยๆ และจะมีเมือกใสๆ ไหลออกมา ก่อนจะ เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น จนมีเลือดปนออกมา ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ตัวผู้เริ่มให้ความสนใจ ตัวเมีย โดยอาจจะมาดมก้น และพยายามผ
ผสมพันธ์สุนัขแต่ตัวเมียจะไม่ยอมให้ผสม
• ระยะสัด กินเวลาประมาณ 4-8 วัน ในระยะนี้เลือดจะเริ่มหยุดไหล ช่องคลอด จะขยายใหญ่ และตัวเมียจะเริ่มยินยอมให้ตัวผู้
ผสมพันธ์สุนัข ช่วงนี้ถือเป็นช่วงทอง สำหรับเจ้าของที่ต้องการลูกสุนัข การผสมควรผสมในช่วง 24 ช.ม. แรกของระยะสัด และผสมซ้ำอีกครั้งใน 2 วันต่อมา เพื่อให้มั่นใจว่า สุนัขจะตั้งท้องจริงๆ สุนัขตัวเมียที่เหมาะแก่การผสมพันธ์สุนัข ควรจะติดสัดเป็นครั้งที่ 3 ขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้ระบบสืบพันธุ์สมบูรณ์ที่สุด
สำหรับเจ้าของสุนัขที่ไม่ต้องการให้สุนัขตั้งท้อง ก็อาจจะให้สุนัขกิน หรือฉีดยาคุมกำเนิด เพื่อไม่ให้ติดสัด ทั้งนี้ก็ต้องปรึกษาสัตวแพทย์ค่ะ หรือถ้าจะคุมกำเนิดแบบถาวร ก็สามารถให้สัตวแพทย์ทำหมันได้เลยค่ะ
ท้อง ไม่ท้อง
เมื่อไข่ได้รับการผสมกับอสุจิ ก็จะพัฒนาเป็นตัวอ่อนฝังในมดลูก ปกติแล้ว สุนัขจะตั้งท้องประมาณ 58-63 วัน โดยในช่วงแรกๆ ของการตั้งท้อง รูปร่างของแม่สุนัข แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย กว่าจะสังเกตได้ ก็เริ่มเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 นู่นแหละ ที่ท้องจะเริ่มโตขึ้น ประมาณ 35 วัน เต้านมจะขยายใหญ่ขึ้น หัวนมจะโตขึ้น และมีสีชมพูเรื่อๆ และในช่วง 3-4 วันก่อนคลอดจะมีน้ำใสๆ ไหลออกมาจากหัวนม สำหรับสุนัขที่เคยตั้งท้องมาแล้วหลายครั้ง เต้านมอาจไม่ขยาย จนกว่าจะสัปดาห์สุดท้ายของการตั้งท้อง
ในช่วงนี้เจ้าของควรให้อาหารสุนัขมากเป็นพิเศษ และเพิ่มวิตามินรวม แคลเซียม ให้กับสุนัขด้วย (ดู อาหารสุนัข) นอกจากนี้ ควรถ่ายพยาธิตัวกลมให้สุนัขในช่วงตั้งท้อง 3 ครั้ง คือ ช่วงเริ่มท้องใหม่ๆ 10 วันก่อนคลอด และ 10 วันหลังคลอด
จัดเตรียมสถานที่ที่เงียบสงบ และสะอาด ให้พร้อมสำหรับการคลอด โดยอาจจะใช้กล่อง ตะกร้า หรือคอกที่แยกต่างหากจากสัตว์อื่นๆ รองพื้นสถานที่นั้นด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ และทับด้วยผ้านิ่มๆ อีกชั้นหนึ่ง ถ้าคุณเป็น มือใหม่ จะปรึกษาสัตวแพทย์ไว้เผื่อขาด เผื่อเหลือ ก็น่าเข้าทีดีเหมือนกัน
อุแว้ อุแว้
เมื่อครบกำหนดคลอด แม่สุนัขจะมีอาการเบื่ออาหาร เริ่มกระวนกระวาย เดินวน ขุดคุ้ยหาสถานที่คลอด (ซึ่งอาจจะไม่ใช่ที่คุณเตรียมไว้) หัวนมจะมีน้ำใสๆ ซึมออกมา บางครั้งอาจมีน้ำใสๆ ซึมที่ช่องคลอดด้วย
เมื่อถึงเวลาคลอด แม่สุนัขจะนอนเบ่งในสถานที่ที่เลือกไว้ หลังจากเบ่งไม่นาน ถุงน้ำคร่ำจะโผล่ออกมา และแตกออก จากนั้นหัวลูกสุนัขจะค่อยๆ โผล่ออกมาทีละตัว โดยการคลอดแต่ละตัวจะห่างกันประมาณ 10-30 นาที ตามปกติแล้ว แม่สุนัขจะกัดถุงน้ำคร่ำ และสายสะดือให้ขาด พร้อมกับเลียตัวลูก เพื่อทำความสะอาด หากกรณีนี้ ไม่เกิดขึ้น และมีเยื่อถุงน้ำคร่ำพันหน้าลูกสุนัขอยู่ เป็นหน้าที่ที่คุณจะต้องช่วยดึงมันออก และตัดสายรกให้ขาด โดยใช้นิ้วจับสายสะดือ แล้วดึงให้ห่างจากตัวลูกสุนัขประมาณ 4 ซ.ม. เสร็จแล้วรีบนำลูกสุนัขส่งคืนให้กับแม่สุนัข ส่วนรกที่ถูกขับออกมา แม่สุนัขจะกินเข้าไป เพราะรกมีฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นในหลั่งน้ำนม หลังจากนั้น ก็เป็นหน้าที่ของแม่สุนัข ที่จะเลี้ยงลูกน้อยต่อไป โดยมีคุณเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ ตามปกติแล้ว แม่สุนัขจะให้นมลูกราว 35-50 วัน ก็จะหย่านม ให้ลูกสุนัขกินอาหารอื่นต่อไป
บอกไว้ เผื่อฉุกเฉิน
การคลอดของสุนัขจะกินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหลังจากถุงน้ำคร่ำแตกออก หากภายใน 2 ชั่วโมงลูกสุนัขยังไม่ถูกคลอดออกมา ต้องรีบนำสุนัขส่งสัตวแพทย์ค่ะ ระหว่างการคลอด หากแม่สุนัขเบ่งลูกสุนัขออกมาช้ามากๆ และลูกสุนัขคาอยู่ระหว่างช่องคลอด คุณอาจจะต้องช่วยดึงลูกสุนัขออกมา ก่อนอื่นเลย ต้องล้าง และถูมือด้วยสบู่ให้สะอาดหมดจด จับลูกสุนัขให้แน่น สังเกตจังหวะเบ่งของแม่สุนัข เมื่อแม่สุนัขเริ่มออกแรงเบ่ง ให้ค่อยๆ ดึงลูกสุนัขอย่างเบามือ ช้าๆ ในลักษณะหมุนมือไปมาเล็กน้อย จนลูกสุนัขหลุดออก จากช่องคลอด
ผสมพันธ์สุนัข
http://www.pantipmarket.com/petplant/picture/P6139604.jpg

No comments:

พันธุ์ บลู ด้อก พันธุ์ บลู ด้อก พันธุ์ บลู ด้อก พันธุ์ บลู ด้อก

พันธุ์ บลู ด้อก พันธุ์ บลู ด้อก พันธุ์ บลู ด้อก พันธุ์ บลู ด้อก
พันธุ์ บลู ด้อก พันธุ์ บลู ด้อก พันธุ์ บลู ด้อกพันธุ์ บลู ด้อก

ทำคลอดลูกหมา

ทำคลอดลูกหมา
ทำคลอดลูกหมา

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "dog hospital"

หมาพันธุ์ใหญ่ หมาพันธุ์ใหญ่ หมาพันธุ์ใหญ่

หมาพันธุ์ใหญ่ หมาพันธุ์ใหญ่ หมาพันธุ์ใหญ่
หมาพันธุ์ใหญ่ หมาพันธุ์ใหญ่ หมาพันธุ์ใหญ่

การเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัข

การเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัข






ปัจจุบันอาหารสำเร็จรูปทั้งแบบเม็ดและแบบกระป๋องนั้นได้รับความนิยมมาก
ซึ่งเป็นเพราะความสะดวกและสะอาดรวมไปถึงคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน
ทำให้เจ้าของสุนัขส่วนมากนิยมซื้อมาให้สุนัขรับประทาน
วันนี้เราจะมาดูวิธีการเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปกันค่ะ.......
1. ให้ดูที่ฉลากว่าได้ผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์แล้ว
ให้ดูข้างถุงหรือกระป๋องจะมีทะเบียนอาหารสัตว์อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า
อาหารนี้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาแล้ว
2. ให้ดูวันหมดอายุทุกครั้งที่ซื้อ
อาหารก็มีวันหมดอายุ ให้ดูทุกครั้งที่กระป๋องหรือถุง และหากใกล้วันหมดอายุก็
ไม่ควรซื้อมา เพราะจะเก็บไว้ไม่ได้นาน
3. ไม่ควรซื้ออาหารแบบแบ่งขาย
เพราะไม่มีฉลากและวันหมดอายุบอกไว้ เราจึงไม่ทราบที่มา และอาจไม่ปลอดภัย
ต่อสุนัขด้วยเพราะอาจเก็บไว้ไม่ดี ทำให้อาหารไม่สดใหม่
4. การเลือกให้เลือกตรงกับอายุของสุนัข
เพราะทางผู้ผลิตจะระบุสัดส่วนโปรตีนที่เหมาะสมมาแล้ว และรูปแบบของอาหาร
ก็เหมาะกับสุนัขแต่ละวัย ดังนั้นให้ดูว่าสุนัขของคุณอยู่ในวัยไหนก็เลือกแบบนั้น
ส่วนยี่ห้อหรือรสชาติก็อาจแตกต่างกันไป
5. การเก็บอาหารต้องให้สะอาด
การเก็บอาหารควรเก็บอย่างสะอาดและกันลมเข้าจะทำให้เหม็นหืนได้ง่าย
และอาหารจะไม่หอมกรอบ..สุนัขก็จะไม่รับประทาน ดังนั้นเมื่อเปิดถุงแล้ว
ควรหาภาชนะที่ปิดสนิทมาไว้ใส่อาหารด้วยนะคะ

ลูกหมาน่ารัก

ลูกหมาน่ารัก
ลูกหมาน่ารัก

วิธีการเลือกลูกสุนัขแบบง่ายๆ

Pages